ส่งของแต่ไม่มีบับเบิ้ล ใช้อะไรแทนได้บ้าง?
ปัจจุบันการซื้อบับเบิ้ลในรูปแบบโฟมหรือพลาสติกเพื่อนำมาใช้เริ่มเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองในการส่งของ โดยถ้าเป็นส่งให้ครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง เราก็สามารถใช้ วัสดุทดแทนได้ ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในส่วนนี้ไปได้มาก บทความนี้จึงอยากจะมาแนะนำว่าถ้าหากไม่มีบับเบิ้ล วัสดุที่สามารถใช้แทนมีอะไรบ้าง
ลดโลกร้อนได้! ใช้ผักตบชวากันกระแทกดีกว่าโฟมอย่างไร
เนื่องจากปัจจุบันการขายของออนไลน์มีมูลค่าค่อยข้างสูง การใช้ผักตบชวากันกระแทกแทนโฟมดีและแตกต่างกันอย่างไร การใช้โฟมและพลาสติกเริ่มมีมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นมลพิษต่ออากาศ ซึ่งไทยรวมถึงทั่วโลกต่างตระหนักถึงเรื่องนี้ ทำให้มีกลุ่มออกมาสนับสนุนในเรื่องนี้มากมาย เพื่อแสดงออกถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมรวมถึงอนุรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยที่แบรนด์ต่างๆ ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยบทความนี้จะพาไปดูกัน
อกหักเรื่องเล็ก ตกเทรนด์เรื่องใหญ่! FOMO Marketing คืออะไร ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ต้องตาม
บทความนี้จะมาบอกให้ผู้อ่านได้รู้ว่า FOMO Marketing คืออะไร และน่าทำแค่ไหนในยุคนี้ เทรนด์มากมายบนโลกออนไลน์ต่างเกิดขึ้นใหม่ในทุกๆ วัน สิ่งนี้ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องเปิดหาเทรนด์ปัจจุบันในแต่ละวันเพื่อให้ตัวเองไม่ตกข่าว
รู้ลึกกว่าย่อมได้เปรียบ! Customer Insight ดีอย่างไร เราจะพาไปดูกัน
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต แน่นอนว่าเจ้าของแบรนด์ก็อยากที่จะใช้จุดนี้ในการเพิ่มยอดขาย โดยบทความนี้จะพาไปดูกันว่ามีช่องทางไหนที่สามารถหา Customer Insight ของผู้บริโภคได้บ้าง
เกาะกระแสให้ทัน! Real Time Marketing อีกหนึ่งการตลาดที่น่าทำ
ปัจจุบันกระแสดราม่าเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ศาสนา ความเชื่อ หรือรูปลักษณ์ก็ตาม และแบรนด์ไหนๆ ก็อยากที่จะทำคอนเทนต์ตามกระแส เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ๆ ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งการตลาดที่ใช้ประโยชน์จากกระแสสังคมที่เกิดขึ้น บนเทรนด์ยอดฮิตในโซเชียลมีเดียนับเป็นสิ่งที่น่าทำ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่กำลังมาแรง หรืออะไรก็ตามที่เป็นที่พูดถึงในช่วงเวลานั้นๆ Boxme จึงอยากจะมาแนะนำว่า Real Time Marketing คืออะไรและมีข้อดีกับข้อควรระวังอะไรบ้าง ในบทความนี้
อย่าพึ่งทำแบรนด์! ถ้ายังไม่รู้จัก Direct to Consumer (D2C)
ปัจจุบันการขายของผ่านตัวกลาง เป็นเรื่องที่มีมากขึ้นในธุรกิจ และแน่นอนว่าพวกพ่อค้าคนกลางก็กำลังถูกตัดออกไป ทำให้แนวโน้มตอนนี้ธุรกิจอะไรก็ตามที่เป็นตัวกลางกำลังถูก Disrupt อย่างต่อเนื่อง เพราะมีหลายอย่างเข้ามาเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ เนื่องจากแบรนด์เองก็มองหาโอกาสในการขายของแบบ D2C โดยอาจใช้ประโยชน์ของช่องทาง E-commerce (D2C) คือ อะไร เราจะมาแชร์ความรู้กันในบทความนี้
การตลาดแบบ D2C เป็นความท้าทายใหม่สำหรับแบรนด์ต่างๆ วันนี้เราเลยจะมาแชร์เกี่ยวกับการขายสินค้าแบบ D2C กันว่าคืออะไร ช่วยเสริมธุรกิจได้อย่างไร ผ่าน 4 เหตุผลนี้กัน (อ่านเพิ่มเติม > 4 ขั้นตอนทำ Online Marketing อย่างไรให้โคตรปัง)
Direct to Consumer หรือ D2C คืออะไร
คือ การขายสินค้าและบริการโดยตรงจากบริษัทถึงผู้บริโภค เป็นการขายสินค้าแบบปลีกผ่านช่องทางการขายเฉพาะที่เป็นของแบรนด์เอง ไม่ผ่านตัวกลางอย่างเช่น พ่อค้าปลีก หรือ พ่อค้าคนกลาง โดยมีระบบรวบรวมสินค้า บริการจัดส่ง และชำระเงินอย่างสมบูรณ์ไว้ในช่องทางเดียว ไม่ได้ขายผ่านแพลตฟอร์ม E-Marketplace ตัวกลาง จุดนี้เองคือจุดที่ทำให้ D2C ต่างออกไปจาก B2C
เพราะการทำธุรกิจแบบ B2C หรือ Business to Customer ยังคงต้องอาศัยพ่อค้าคนกลาง หรือการค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อ เป็นตรงกลางเชื่อมไปยังผู้บริโภค ในขณะที่การขายแบบ D2C บริษัทผู้ผลิตสามารถขายตรงถึงผู้บริโภคได้เลยโดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผู้บริโภคจะได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับแบรนด์มากขึ้น การทำ D2C กำลังกลายเป็นเทรนด์ E-Commerce ทั่วโลก โดยแบรนด์ต่างๆ ที่ใหญ่พอหรือมีกำลังทรัพย์ต่างเริ่มหันมาทำแพลตฟอร์มการขายเป็นของตนเอง
หากลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของคุณผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์ E-Marketplace เหนือสินค้าจากคู่แข่ง คุณอาจจะชนะให้แง่ของยอดการขาย แต่คุณจะสูญเสียโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าไป ประกอบกับลักษณะพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปโดยมีการหันมาช้อปปิ้งผ่านช่องออนไลน์มากขึ้น ทำให้เอื้อต่อการใช้กลยุทธ์นี้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ก็เป็นอีกตัวกระตุ้นหลักที่เร่งให้หลายบริษัทต้องหันมามองกลยุทธ์ D2C บนช่องทาง E-commerce มากขึ้นเมื่อพฤติกรรมการซื้อของของผู้บริโภคส่วนใหญ่ย้ายมาอยู่บนช่องทางออนไลน์
ข้อดีของการทำ Direct to Consumer หรือ D2C
1. สามารถออกแบบประสบการณ์การซื้อ ที่มีคุณภาพได้เต็มที่

เพราะใครๆ ก็ต้องการประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า และในส่วนนี้บริษัทก็มีอำนาจเต็มที่ในการออกแบบและสร้างสรรค์ประสบการณ์ต่างๆ ให้กับลูกค้า โดยไม่โดนขัดจากการที่ต้องผ่านร้านค้าปลีก รวมถึงควรทำให้แน่ใจว่าลูกค้าจะออกจากร้านค้าของคุณอย่างมีความสุขและพึงพอใจ โดยทำเปิดรับ Feedback จากลูกค้า การมีข้อมูลของผู้บริโภคมากยิ่งสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนากลยุทธ์การตลาดต่างๆ ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และแน่นอนว่า Social Platform นั้นจะยิ่งทำให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
2. ช่วยลดต้นทุน บวกกับเพิ่มรายได้ที่มากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าทุกแบรนด์ต่างก็ต้องการการประสบความสำเร็จและยอดขายที่มากขึ้น การเปิดขายบนแพลตฟอร์มใหม่ถือเป็นการขยายช่องทางการขายสินค้าและการเข้าถึงผู้บริโภคออกไปให้มากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเพิ่มกำไรและสร้างยอดขายที่มากขึ้นได้
นอกจากนี้การลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของพ่อค้าคนกลาง ก็สามารถประหยัดต้นทุนได้มากขึ้นเช่นกัน จากการที่ไม่ต้องนำสินค้าไปจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีก หรือการเสียค่าธรรมเนียม โดยแบรนด์ต่างๆ สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงได้มากกว่าเดิม การปิดการขายก็สามารถทำได้มากขึ้นถึงแม้เศรษฐกิจไม่ดี
3. สามารถนำฐานข้อมูลของลูกค้า มาต่อยอดในอนาคตได้

เมื่อการทำ D2C คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อของแบรนด์เรา แทนที่จะเข้าร้านค้าปลีกหรือเว็บไซต์ E-Commerce นั่นทำให้แบรนด์มีโอกาสเก็บข้อมูลของลูกค้าผ่านเครื่องมือ Digital Tool ถ้าหากเราไม่ทำ D2Cเป็นตัวกลาง แบรนด์ของเราก็จะไม่เข้าใจลูกค้าอาจจะเสียโอกาสในการปรับปรุงสินค้าและบริการและอาจจะทำให้ยอดขายในอานาคตน้อยลงไปด้วย
4. ขายอะไรก็สามารถขายได้ ไม่ถูกจำกัดโดยตัวกลาง
เพราะร้านไหนๆ ก็อยากที่จะขายสินค้าขายดี ทำให้ร้านค้าปลีกส่วนมากเอาแต่ของขายดีขึ้นโชว์หน้าหลักเพื่อทำยอดขาย ทั้งที่จริงแล้วแบรนด์ไม่ได้รู้เลยว่าแบรนด์อาจไม่อยากขายสินค้านั้นก็ได้ แต่พอทำ D2C แบรนด์ก็จะสามารถขายอะไรตามที่แบรนด์อยากจะนำเสนอ เนื่องจากไม่ถูกร้านค้าปลีกย่อยจำกัดอีกต่อไป ทำให้มีอิสระมากยิ่งขึ้น (อ่านเพิ่มเติม > How To ดึงดูดลูกค้าด้วย SEO ฉบับร้านค้าออนไลน์)
Direct to Consumer เทรนด์ค้าปลีกสำคัญ กับเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ถึงควรทำ
ช่องทาง D2C เพิ่มโอกาสในการนำผู้บริโภคธรรมดาๆ ที่เข้ามาซื้อสินค้าของคุณให้กลายเป็นลูกค้าระยะยาวที่ผูกพันตลอดชีพได้ เพราะแบรนด์มีความสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า เพื่อนำมาปรับและส่งมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ตรงตามความต้องการส่วนตัวของลูกค้าแต่ละคนได้ ซึ่งเทคนิคการตอบสนองลูกค้าดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ลูกค้าของคุณส่วนใหญ่กว่า 70% ก็ต้องการการเอาใจใส่แบบนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีแบรนด์มากมายที่ประสบความสำเร็จจากการทำ D2C มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Nike Adidas และอื่นๆ และก็รวมทั้ง การที่ธุรกิจค้าปลีกหลายแห่งต่างประสบความสำเร็จจากการจัดทำช่องทาง Direct to Consumer เพิ่มเติมจากช่องทางการขายเดิมที่มีอยู่แล้ว ตอนนี้คุณเริ่มเห็นหรือยังว่า ร้านค้าออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ E-Commerce เป็นของตนเองในอนาคตอันใกล้อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อมีร้านค้าลงทุนทำ D2C เป็นจำนวนมาก คงขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ใดจะสามารถหยิบยื่นประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า พันธมิตร และหุ้นส่วนทางธุรกิจได้ จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมธุรกิจนี้
หวังว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากการบทความนี้ ในการดำเนินธุรกิจไม่มากก็น้อย นอกจากเทคนิค D2C นี้แล้วก็ยังมีเทคนิคอีกมากมายที่น่าทำในยุคปัจจุบันและทาง Boxme ก็ยังมีเทคนิคและวิธีการมากมายที่ทำให้สามารถขายของออนไลน์ได้ดี โดยสามารถติดตามได้ที่บทความต่อไปของ Boxme ได้เลย
สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการ ธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ของท่าน คลังสินค้า Boxme Thailand ให้บริการทั้งการจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่ง ให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณง่ายในการจัดการมากขึ้น และกรณีที่ท่านจัดการเองไม่ไหว ไม่มีเวลามากพอในการทำ และต้องการระบบในการช่วยจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งทางเรามีระบบที่ช่วยบริหารร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งระบบจัดการช่องทางการขายช่วยซัพพอร์ต สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก > Grasp.asia
สนใจระบบเชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในหน้าเดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่
ไม่อ่านก็พลาดแล้ว! Red Ocean VS Blue Ocean แต่ละตลาดต่างกันอย่างไร
ปัจจุบันการทำธุรกิจอะไรสักอย่างจำเป็นต้องศึกษาตลาดให้ดี เพราะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหนๆ ก็ต่างมีตลาดของตัวเองกันทั้งนั้น ซึ่งวันนี้ Boxme จะมาแนะนำให้รู้ว่า Red Ocean VS Blue Ocean คืออะไร
เผยเทคนิคการทำ Dropship ที่ไม่มีใครบอกคุณ!
ปัจจุบันการขายของออนไลน์เดี๋ยวนี้มีหลายแบบ แถมยังสร้างรายได้ไม่มีสิ้นสุด เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็สามารถเป็นแม่ค้าออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าอยู่ตัวเอง บทความนี้จะมาเผยเทคนิคการทำ Dropship ที่ไม่มีใครบอกคุณ!
หน้าใหม่ต้องรู้! 4P marketing สำคัญอย่างไรในธุรกิจ?
ปัจจุบันมีการตลาดมากมายให้ได้เลือกศึกษา อีกทั้งความรู้ในการทำธุรกิจมากมายบนโลกออนไลน์ที่มีอย่างไม่จำกัด แต่ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกกับ 4P Marketing…
6 เคล็ดลับสุดปังใน E-Marketplace! เริ่มสร้างแบรนด์ตัวเองอย่างไร? ให้โดนใจลูกค้า
แน่นอนว่าปัจจุบัน การที่จะมีแบรนด์บน E-Marketplace นึงเกิดขึ้นมาได้ ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะเริ่มสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอย่างไรดี Boxme จะมาแนะนำในบทความนี้กันว่าควรจะทำอย่างไรและมีเทคนิคอะไรบ้างที่น่าสนใจในการสร้างแบรนด์